วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รถเคยชนมาอยากทราบว่า…ซื้อได้ป่ะคะ


รถเคยชนมา อยากทราบว่า…ซื้อได้ป่ะคะ
By Dan: Carfair group





ในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์นับได้ว่ามีการพัฒนาสูงเป็นลำดับต้นๆของโลก มีการใช้หุ่นยนต์มาผลิตชิ้นส่วนต่างๆของรถ จนสามารถทำให้ชิ้นส่วนต่างๆมีองค์ประกอบที่สลับซับซ้อน ทำให้ได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเบา และมีการคำนวณการรับแรงกระทำจากส่วนต่างๆให้ส่งถ่ายแรงกระแทกไปยังชิ้นส่วนอื่นๆเพื่อปกป้องห้องโดยสารให้ผู้โดยสารได้รับความปลอดภัย

ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตที่แสนจะ Hitech เหล่านี้สามารถทำให้รถประหยัดน้ำมันขึ้น แถมห้องโดยสารยังมีความปลอดภัยจากแรงกระแทกต่างๆอีกด้วย

แต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การผลิตตัวถังโดยใช้ชิ้นส่วนของแผ่นเหล็กบางขึ้นรูปที่ซับซ้อนเหล่านี้ ในการเกิดการชนแต่ละครั้งนั้นสามารถสร้างความเสียหายกับตัวถังและชิ้นส่วนต่างๆได้ค่อนข้างมาก แถมในทุกครั้งการชนหนักๆสามารถทำให้ความปลอดภัยที่คำนวณไว้ให้ห้องโดยสารคลาดเคลื่อนและเสียหายได้มากอีกด้วย

เมื่อการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้งสามารถสร้างปัญหาได้น้อยบ้างมากบ้างอย่างนี้ คำถามที่ว่า รถชนมาซื้อได้หรือไม่จึงเกิดขึ้น ซึ่งคำตอบของคำถามนี้เป็นดังนี้



ก่อนอื่นเราจะต้องทำการแยกการชนออกเป็น 5 กลุ่ม

1. การเฉี่ยวทั่วๆไป
2. การชนระดับเบา เช่นการชนท้ายเนื่องจากชะลอความเร็วไม่ทัน หรือการขนกันโดยใช้ความเร็วร่วมไม่
    เกิน 20 ก.ม./ช.ม.
3. การชนระดับปานกลางที่ความเร็วร่วมไม่เกิน 50  ก.ม./ช.ม.
4. การชนหนักระดับเริ่มต้นที่ความเร็วร่วมไม่เกิน 80 ก.ม./ช.ม.
5. การชนหนักที่ระดับความเร็วตั่งแต่ 120 ก.ม./ช.ม.  ขึ้นไป






1. การเฉี่ยวทั่วๆไป เช่นการเบียดเสา การเฉี่ยวกันระหว่างขับขี่แบบใช้ความเร็วต่ำ เป็นต้น
       การชนระดับนี้ เป็นการเฉี่ยวชนที่ทำความเสียหายได้เฉพาะพื้นผิว แค่เกิดรอยขีดข่วนสีถลอก หรือรอยบุบเท่านั้น
       การซ่อมแซมก็แค่ทำสีใหม่หรือบางทีอาจเปลี่ยนชิ้นส่วนชิ้นนั้นได้
       การชนแบบนี้สามารถเกิดได้กับรถทุกๆคัน ซึ่งเป็นการชนที่ไม่เกิดการกระทบระบบความปลอดภัยของตัวถังรถ

        นั่นแสดงว่าสามารถซื้อรถมือสองที่ผ่านการชนแบบที่ 1 ได้อย่างไร้กังวล











2.การชนระดับเบา เช่นการชนท้ายเนื่องจากชะลอความเร็วไม่ทัน หรือการชนกันโดยใช้ความเร็วร่วมไม่เกิน 20 ก.ม./ช.ม.
      การชนระดับนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วนที่กระแทกได้จนถึงระดับบุบลึกหรือฉีกขาดได้ อย่างเช่นการชนบริเวณกันชนที่ปัจจุบันมักทำมาจากวัสดุพลาสติกจนสามารถฉีกขาดได้  แต่ส่วนใหญ่การชนระดับนี้จะไม่กระทบไปถึงโครงสร้างความปลอดภัย
         นั่นก็แสดงว่า ท่านสามารถเลือกซื้อรถที่เคยเกิดการชนระดับเบาได้โดยไม่ต้องกังวลในความปลอดภัยในการขับขี่เช่นเดียวกันกับแบบที่ 1




3.การชนระดับปานกลาง ที่ความเร็วร่วมไม่เกิน 50  ก.ม./ช.ม. การชนแบบนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วนความปลอดภัยต่างๆได้ไม่น้อย เช่น คานรับแรงกระแทกต่างๆ
      และอาจสร้างความเสียหายได้ในชิ้นส่วนรอบๆบริเวณที่ชน อาทิเช่นการชนท้ายที่ความเร็วนี้สามารถสร้างความเสียหายให้แก่กันชนท้าย อ่างยางอะไหล่ ไฟท้ายและตัวถังส่วนเบ้าไฟท้ายเป็นต้น
      การชนระดับนี้สามารถทำการซ่อมแซม เปลี่ยนอะไหล่ เคาะบริเวณที่เสียหาย ไปจนถึงการตัดต่อชิ้นส่วนต่างๆที่เสียหายจนไม่สามารถเคาะซ่อมได้
  ซึ่งรถที่ได้รับการชนในระดับนี้ยังจัดว่าเป็นรถที่มีความปลอดภัยในการขับขี่อยู่ 
       แต่ส่วนที่ได้รับการซ่อมแซมมาอาจไม่เรียบร้อยเท่ารถใหม่ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการรั่วซึมหรือเกิดสนิมได้
       รวมถึงถ้าการเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆไม่ใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตจากโรงงานผู้ผลิต และได้รับการติดตั้งโดยช่างที่ไม่ใช่ผู้ชำนาญการก็สามารถสร้างปัญหาให้แก่ผู้ใช้ได้มากทีเดียว




 4.การชนหนัก ระดับเริ่มต้นที่ความเร็วร่วมไม่เกิน 80 ก.ม./ช.ม.
       การชนระดับนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบโครงสร้างความปลอดภัย และชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์และช่วงล่าง
       เรียกได้ว่าการชนแบบนี้มีผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง
     เช่นถ้าได้รับการชนด้านหน้าในระดับนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นสามารถเกิดได้กับตัวถังทั้งชิ้นในส่วนที่ 1 ใน 3 ส่วนของรถ ส่วนของเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆในห้องเครื่อง ระบบไฟฟ้า รวมถึงช่วงล่าง
      และความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจมากขึ้นได้ถ้าการชนเป็นไปแบบแนวเฉียง ชนเข้าที่ด้านข้าง หรือที่มุมต่างๆ
       การชนแบบนี้เป็นการชนที่สามารถกระทบกับระบบโครงสร้างความปลอดภัย นั่นหมายถึง รถที่ผลิตจากโรงงานผลิตส่วนใหญ่จะสามารถปกป้องความปลอดภัยของผู้โดยสารได้จากการชนระดับนี้

แต่ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

     การซ่อมรถที่ชนหรือพลิกคว่ำในระดับนี้ทำได้ตั้งแต่ ตัดต่อ ดึงโครงสร้าง เปลี่ยนชิ้นส่วนทุกชิ้นบริเวณรอบๆ รวมไปถึงการไปเอาโครงรถรุ่นเดียวกัน(หรือรุ่นอื่นๆที่ดัดแปลงกันได้)มาเชื่อมใหม่
         ซึ่งแน่นอนว่า รถที่เกิดอุบัติเหตุระดับนี้เราไม่ควรมีไว้ในครอบครองเด็ดขาด เว้นแต่จะสามารถซื้อได้ในราคาถูกมากๆ และผู้ใช้รู้ดีว่าการใช้งานจะต้องไม่มีความเสี่ยงต่อการชนในครั้งต่อไป




5.การชนหนักมาก ที่ระดับความเร็วตั้งแต่ 120 ก.ม./ช.ม.  ขึ้นไป
     การชนระดับนี้ สามารถทำให้รถทั้งคันกลายเป็นกองเศษเหล็ก ไม่สามารถมองออกว่าด้านนี้เป็นด้านไหน หรือก้อนนี้มันก้อนอะไร
      และส่วนใหญ่ ผู้โดยสารก็ไม่สามารถออกมารับรู้ได้ว่าหลังการชนนั้นรถตนเองสามารถซ่อมได้หรือเปล่า
   การหาซื้อรถชนในระดับนี้คงไม่ต้องพูดถึง






        จะเห็นได้ว่า รถที่ถูกชนมานั้น ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องหลีกเลี่ยงไม่สามารถซื้อหามาเป็นเจ้าของได้อย่างปลอดโปร่งปลอดภัย
     แต่การจะหาซื้อรถมือสองมาใช้ เราจะต้องสามารถสืบค้นจนรู้ได้ว่า รถที่คุณจะเอามาใช้ในชีวิตประจำวันของคุณนั้น เคยได้รับการชนมาในระดับไหน ระดับ1 2 3 ก็ยังสามารถเอาไว้ครอบครองได้ แต่ถ้าเจอรถระดับ 4 ขึ้นไปละก็……ตัวWHOตัวIT

www.sabuycar.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น